• TH/EN
  • 099-1890189
  • MRT สุทธิสาร ทางออก 4
  • จันทร์-เสาร์: 10.00 - 20.00 น.
  • TH/EN
  • 099-1890189
  • MRT สุทธิสาร ทางออก 4
  • จันทร์-เสาร์: 10.00 - 20.00 น.
Sculptra คืออะไร หัตถการยกกระชับ คืนความสดใสให้ผิว พร้อมข้อควรรู้

Sculptra คืออะไร หัตถการยกกระชับ คืนความสดใสให้ผิว พร้อมข้อควรรู้

Sculptra

Sculptra หัตถการมาแรงด้านยกกระชับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้หน้าเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด ใครที่เริ่มสนใจและกำลังหาข้อมูลว่าหัตถการ Sculptra คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาผิวด้านใดบ้าง และการฉีด Sculptra เหมาะกับใคร ฉีดตรงไหนได้บ้าง รวมทั้งราคา พร้อมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียเพื่อประกอบการตัดสินใจ บทความนี้ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว
ทำความรู้จัก Sculptra คืออะไร

ทำความรู้จัก Sculptra คืออะไร

Sculptra คือ สารชนิดหนึ่งประเภท Poly-L-Lactic acid (PLLA) ซึ่งเป็น Collagen Type 1 ที่สามารถเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างใต้ชั้นผิวให้มีความกระชับ อิ่มฟู เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนังได้ดี อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มไหมน้ำที่ได้รับการรับรองจากองค์กรอาหาร และยาจากทั้งสหรัฐอเมริกา (USFDA) ยุโรป และไทย มีความปลอดภัยสูง ย่อยสลายเองได้ ฉีด Sculptra จึงเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ผิวจึงดูอ่อนเยาว์อย่างธรรมชาติได้อย่างยาวนาน

Sculptra ทำงานอย่างไร

ก่อนนำไปฉีดใต้ชั้นผิวหนัง Sculptra จะถูกนำไปผสมกับ Sterile Water เพื่อให้ตัวยากระจายตัวทั่วชั้นผิว Subcutaneous ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำทันที และริ้วรอยจะค่อยๆ ดูตื้นขึ้นเห็นผลได้ชัดในสัปดาห์แรก เนื่องจากสาร PLLA จะเข้าไปเพิ่มปริมาณ ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่มีองค์ประกอบของคอลลาเจนและอีลาสตินในการเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง และยังสามารถผลัดเซลล์ผิวเก่าให้สว่างกระจ่างใส ดูเนียนนุ่มอีกด้วย
ฉีด Sculptra ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

ฉีด Sculptra ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

การฉีด Sculptra จะช่วยเรื่องปัญหาผิวต่างๆ ดังนี้

  • ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวชั้นลึก ปรับโครงสร้างผิวจากภายในให้ผิวแข็งแรง 
  • ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้ผิวเต่งตึง กระชับ
  • ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้ดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกาย ผิวดูเรียบเนียน
  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มนวล กระจ่างใส

Sculptra เหมาะกับใครบ้าง

การฉีด Sculptra  เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิว ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ขาดความยืดหยุ่น ต้องการความเต่งตึง
  • ผู้ที่ริ้วรอยที่เห็นได้ชัด ร่องบริเวณต่างๆ ของใบหน้าที่เกิดจากปัจจัยภายในและภายนอก
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน 
  • ผู้ที่ต้องการผิวอ่อนเยาว์ อิ่มฟู ดูเรียบเนียน
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ระยะยาว ไม่ต้องคอยฉีดซ้ำ เพราะ Sculptra ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปี
ฉีด Sculptra ที่ตรงไหนได้บ้าง

ฉีด Sculptra ที่ตรงไหนได้บ้าง

ตำแหน่งที่คนนิยมฉีด Sculptra มี 3 ตำแหน่งสำคัญบนใบหน้า ช่วยแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไปตามความต้องการเฉพาะจุด ดังนี้
1. บริเวณขมับ

บริเวณขมับเป็นตำแหน่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่กังวลหรือมีปัญหาหน้าดูแก่ก่อนวัย ต้องการให้ผิวยกกระชับ เพราะจะช่วยทำให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยถูกดึงให้ตึงขึ้น กรอบหน้ามีความชัดเจนขึ้น

2. บริเวณโหนกแก้ม

บริเวณโหนกแก้มเป็นบริเวณที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมาก ร่องบริเวณมุมปากรวมถึงกระเปาแก้ม ซึ่งการฉีด Sculptra ที่บริเวณนี้จะช่วยเติมเต็มให้ผิวดูอิ่มฟู กระจ่างใสและยังช่วยให้รูขุมขนกระชับ ดูเด็กลง

3. บริเวณหน้าหู

บริเวณหน้าหูเป็นอีกตำแหน่งที่ช่วยด้านการยกกระชับผิว เนื่องจากเป็นจุดที่มักจะเกิดการผลิตของคอลลาเจนที่น้อยลงในวัย 35 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการยกผิวแก้มด้านล่างขึ้น การฉีดบริเวณหน้าหูจึงใช้ปริมาณยามากที่สุด

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของ Sculptra

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของ Sculptra

ขั้นตอนสุดท้ายก่อนตัดสินใจทำหัตถการ ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสีย Sculptra ดังนี้

ข้อดีของ Sculptra

  • ผลลัพธ์ที่ได้จะค่อยๆ เห็นรูปหน้าดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากเป็นการปรับปรุงสภาพผิวจากภายในให้มีความแข็งแรง 
  • เห็นผลลัพธ์ถึง 2 ปี ไม่ต้องคอยฉีดซ้ำหรือเติมอยู่บ่อยๆ
  • มีประสิทธิภาพด้านการยกกระชับ ปัญหาริ้วรอย ร่องต่างๆ ของใบหน้า
  • ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา
  • ไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นหรือรอยทิ้งไว้ ต่างจากการผ่าตัด เพราะเป็นการฉีดสารเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน เนื่องจากมีความแน่นและอิ่มน้ำในชั้นผิว ที่ช่วยลดการเหี่ยวย่นหรือเกิดร่องต่างๆ บนใบหน้า
  • ผลข้างเคียงที่เกิดจาก Sculptra มีเพียงเล็กน้อย เช่น อาการบวมหรือแดงบริเวณที่ฉีด และจะหายไปเองในไม่กี่วัน

ข้อเสียของ Sculptra

  • Sculptra อาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือหลายเดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  • ราคาสูง เมื่อเทียบกับสารอื่นๆ ในการฟื้นฟูผิวหน้า แต่ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้หน้าทันที เพราะอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น อาการบวม แดง เป็นต้น
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้สาร PLLA

EXOSOME เหมาะกับใคร ?

ไม่ว่าจะทำหัตถการใดๆ ก็ตาม การเตรียมตัวที่ดีและเหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและเป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra มีดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและประเมินปัญหาผิวหน้า 
  • พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับบริการ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดจ้า แสงแดดจัดก่อนฉีด 1-2 วัน 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและสูบบุหรี่ก่อนรับบริการ
  • หากมีการใช้ยาประจำตัว รวมทั้งโรคประจำตัวต่าง ๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทำหัตถการ

ขั้นตอนในการฉีด Sculptra

การฉีด sculptra เป็นการฉีดสารลงชั้นผิวหนัง ต่างจากหัตถการประเภทอื่นๆ ซึ่ง Sculptra มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน โดยแต่ละขั้นตอน มีดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบและประเมินปัญหาผิว รวมทั้งรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการ ขั้นตอนการดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังฉีด
  • แปะยาชาในบริเวณที่ฉีด เป็นเวลาประมาณ 45 นาที
  • ในระหว่างที่รอยาชา แพทย์จะทำการผสม Sculptra กับ น้ำกลั่นปราศจากเชื้อ (Sterile water) เพื่อให้อยู่ในรูป Active form 
  • แพทย์ลงมือฉีด Sculptra ลงใต้ชั้นผิวบริเวณที่กำหนด 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G
  • หลังจากที่ฉีดเสร็จแล้ว แพทย์จะนวดหน้าเพื่อให้ยากระจายตัวในการสร้างคอลลาเจนบริเวณนั้นๆ
การดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra

การดูแลตัวเองหลังฉีด Sculptra

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและคงอยู่ยาวนานหลังจากที่ฉีด Sculptra  ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ทำได้ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การสัมผัสความร้อน เช่น การอบซาวน่า การอบไอน้ำ และงดทาครีมบริเวณที่ฉีด เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
  • คอยประคบเย็นหลังฉีด 24 ชั่วโมงแรก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงยูวีจากแดด จนกว่าอาการบวมและแดงจะหายเป็นปกติ
  • งดทำหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหลังฉีด

ข้อควรระวังในการฉีด Sculptra

แม้ว่าการฉีด Sculptra จะมีความปลอดภัยสูงและผลข้างเคียงน้อย แต่การฉีด Sculptra อาจไม่เหมาะกับบุคคลบางกลุ่ม ดังนี้

  • ผู้ที่มีครรภ์ หรือต้องให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Sculptra ได้แก่ Poly-L-lactic acid (PLLA), Carboxymethylcellulose (CMC), Non-pyrogenic mannitol
  • ผู้ที่ใช้ยาในยากดภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำผู้ที่มีโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune, SLE)

สรุป

Sculptra คือสาร PLLA ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวแข็งแรง เต่งตึงและเปล่งปลั่ง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ทั้งนี้ เพื่อให้การฉีด Sculptra ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน ควรเตรียมตัวดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังทำหัตถการตามที่แพทย์แนะนำ 

นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูงสำหรับออกแบบการฉีดที่เหมาะสม ทาง HERS Clinic มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัตถการผิวหนังคอยให้คำปรึกษาและดูแลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด แก้ไขปัญหาผิวได้จริงตามที่คนไข้ต้องการ

Dr.Joe_HERSclinic

Author

นพ.นฤชิต เลาหไทยมงคล (หมอโจ้)
Facial Design Specialist

Before & After

Q&A คำถามที่พบบ่อย

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังมีข้อสงสัยอยู่ ทางคลินิกได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมทั้งคำตอบเกี่ยวกับการฉีด sculptra มาให้แล้ว

Sculptra กับ Filler ต่างกันอย่างไร

Sculptra กับ Filler เป็นสารคนละชนิด มีคุณสมบัติที่ต่างกัน โดย

  • การฉีด sculptra  จะช่วยในการยกกระชับ ลดริ้วรอย ให้ผิวเด็ก อิ่มฟู 
  • ฟิลเลอร์ เป็นการเติม HA ใต้ผิวซึ่งเป็นการเติมความชุ่มชื้นที่แม้ว่าเห็นผลทันทีแต่ไม่สามารถอยู่ได้เกิน 1 ปี อีกทั้งยังไม่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายได้
Sculptra ราคากี่บาท

สำหรับ sculptra ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ แนะนำปรึกษาแพทย์และสอบถามราคา หรือโปรโมชั่นต่างๆ จากคลินิก

ฉีด Sculptra กี่วัน ถึงเห็นผล

การฉีด sculptra  จะเริ่มเห็นผลในสัปดาห์ที่ 3 และจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นใน 3 เดือน

ควรฉีด Sculptra ทุกกี่เดือน

แนะนำให้ฉีด sculptra  2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์เพื่อให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนเต็มที่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวของแต่ละคน

ฉีด Sculptra แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์ของการฉีด sculptra  นั้นยาวนานถึง 2 ปี หรือ 25 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเอง

บริการแนะนำ

ทรีตเม้นท์ยกกระชับใบหน้าที่จะทำให้คุณผ่อนคลายรีเฟรสผิวหน้าของคุณอีกครั้งด้วยการทำ RF V-LIFT จาก HERS clinic โดยใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงนวดกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้า ทำให้หน้าตึงกระชับ รูขุมขนเล็กลง อีกทั้งยังเป็นการผ่อนคลายไปในตัวอีกด้ว
เติมพลังให้กับคุณด้วยวิตามินดริปสูตรเฉพาะจาก HERS clinic บำรุงสุขภาพ บำรุงผิว ให้ผิวสว่างสดใสมีออร่า รีเฟรชร่างกาย ซ่อมแซมสุขภาพให้คุณ จะมีวิตามินสูตรไหนบ้าง ติดตามกันได้เลยค่ะ
ร้อยไหมยกกระชับหน้า ร้อยไหมยกแก้ม ร้อยไหมยกคิ้ว ด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันที โดยการร้อยแบบเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ให้ใบหน้าคุณตึงกระชับในแบบของคุณ