Key Takeaway
- ปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ เกิดจากพันธุกรรม หรือจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวัน ที่อาจส่งผลให้ไขมันเกิดการสะสม จนทำให้แก้มเยอะ และอาจเกิดได้จากอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวหนังเริ่มสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ผิวไม่เต่งตึง หย่อนคล้อยมากขึ้น
- ลดแก้ม ลดเหนียงได้ด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การใช้เครื่องยกกระชับประเภท Hifu, Ulthera, Thermage, RF และ CoolSculpting หรือจะเป็นวิธีการร้อยไหม ฉีดโบท็อกซ์ ดูดไขมัน ฉีดเมโสแฟต ฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น
- ลดแก้ม ลดเหนียงได้ด้วยวิธีทางธรรมชาติ เช่น การใช้อุปกรณ์นวดหน้า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การทำท่าบริหารแก้ม หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวัน เป็นต้น
ทำไมหลายๆ คนออกกำลังกายเท่าไรก็ลดแก้มไม่ได้สักที? เพราะสาเหตุที่ทำแก้มเยอะไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมการกินเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ หน้าบาน แม้จะแก้ยากแต่แก้ได้! บทความนี้จะพาไปดูวิธีลดเหนียง ลดแก้ม ทั้งวิธีทางการแพทย์ และวิธีธรรมชาติ เพื่อทําให้หน้าเรียวสวย มีมิติ เสริมสร้างความมั่นใจให้ทุกคนอีกครั้ง
สาเหตุของปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ เกิดจากอะไร
ปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- กรรมพันธุ์: มีพื้นฐานครอบครัวเป็นคนแก้มเยอะอยู่แล้ว ซึ่งหากแก้มเยอะ เหนียงเยอะเกิดจากสาเหตุนี้ มักจะแก้ไขได้ยาก
- อายุที่มากขึ้น: จะทำให้แก้มย้อย เหนียงเยอะขึ้น โดยเกิดจากจำนวนคอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณผิวลดลง
- พฤติกรรมการกิน: หากกินอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ของหวาน ของมัน ของทอด หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอต่อร่างกาย จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันบริเวณแก้มมากขึ้น
ลดแก้มด้วย 11 วิธีทางการแพทย์ ฉบับเห็นผลไว
ใครที่ลดแก้มด้วยวิธีธรรมชาติแล้วไม่เห็นผลสักที มาดูวิธีทำให้หน้าเรียวทั้ง 11 วิธีลดแก้มด้วยวิธีทางการแพทย์ ฉบับเห็นผลไว และเห็นผลทันทีที่ทำ
1. Hifu
มาลดแก้มด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำกับ Hifu ตัวช่วยกระชับผิวหน้า มีหลักการทำงานในการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ยิงเข้าไปในแต่ละชั้นผิว เพื่อทำให้ผิวหดตัว กระตุ้นคอลลาเจนใหม่เพื่อผิวที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยมีคุณสมบัติเด่น คือ ช่วยลดความหย่อนคล้อย ลดไขมัน ลดแก้ม ลดเหนียง ลดริ้วรอย และกระชับผิวให้เต่งตึง แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
2. Ulthera
Ulthera นวัตกรรมกระชับผิว ที่มีหลักการทำงานในการยิงพลังงานเฉพาะจุดอย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติเด่นคือการยิงอย่างแม่นยำ แสดงระดับความลึกของจุดที่ยิงได้ เพื่อให้คนไข้ได้เห็นขั้นตอนการกระชับผิวได้แบบเรียลไทม์ ส่งผลให้ผิวที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย กระชับมากขึ้น ช่วยลดแก้ม ลดเหนียง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลาเลย
3. ร้อยไหม
วิธีการลดแก้ม ลดเหนียงด้วยการร้อยไหม ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ โดยจะมีการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปในชั้นผิวหนังบริเวณแก้มส่วนล่างและบริเวณขมับ เพื่อให้ผิวที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้นมา ปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติ เห็นโครงหน้าชัดเจน ไม่มีแก้มห้อยย้อยมากวนใจ เห็นผลชัดเจน เห็นผลไว เหมาะกับคนที่มีแก้มไม่เยอะมาก แต่อยากเน้นการยกกระชับ
4. ฉีดโบท็อกซ์
วิธีลดแก้มแบบโบท็อกซ์ ไม่ได้ช่วยลดแก้ม ลดเหนียงได้โดยตรง แต่ช่วยให้หน้าดูเป็นวีเชฟมากขึ้น เพราะบางคนมีปัญหาแก้มเยอะ ที่ไม่ได้มาจากไขมันสะสม แต่มาจากขนาดกรามที่ใหญ่ การฉีดโบท็อกจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหานี้ หากฉีดคู่กับเมโสแฟตก็จะยิ่งให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
5. ดูดไขมัน
ต่อมาเป็นวิธีการลดแก้ม ลดเหนียง ด้วยการดูดไขมัน ที่มีส่วนช่วยไขมันสะสมบริเวณแก้มได้ดี ทำให้กรอบหน้าชัด ดูมีมิติขึ้น โดยจะใช้เครื่องดูดไขมันในการแยกเซลล์ไขมันบริเวณใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นจึงดูดไขมันออกมา เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมเยอะ แต่ผิวหนังยังไม่หย่อนคล้อยมากเท่าไร
6. ผ่าตัดลดแก้ม
ใครไม่กลัวเจ็บ มีเวลาพักฟื้น ลองวิธีการผ่าตัดลดแก้ม โดยจะผ่าตัดไขมันบริเวณกระพุ้งแก้ม เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ หน้ากลม โดยวิธีนี้จะทำให้กระพุ้งแก้มไม่กลับมาอีก หรือมีโอกาสกลับมาน้อยมาก หรือจะเป็นการผ่าตัดดึงหน้า ที่มีการผ่าตัดเพื่อยกกระชับโครงสร้างเนื้อเยื่อ ตั้งแต่บริเวณหน้า แก้ม สันกราม มาจนถึงคอ อาจจะต้องทำร่วมกับการดูดไขมัน เพื่อประสิทธิภาพในการลดแก้ม ลดเหนียง กระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. นวดหน้า RF
นวดหน้าด้วยเครื่อง RF ช่วยลดแก้ม ลดเหนียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง แลดูอ่อนเยาว์ กระชับให้ผิวเต่งตึง ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย นอกจากนี้ ยังช่วยลดริ้วรอย และลดความหมองคล้ำอีกด้วย
8. ฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟต คือการฉีดตัวยาเพื่อสลายไขมันเฉพาะจุด เพื่อให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกมาจากร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังช่วยเร่งการเผาผลาญเพื่อลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ ช่วยให้ใบหน้าเข้ารูป เรียวสวย เป็นวิธีที่ช่วยลดแก้ม ลดเหนียง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. Thermage
พบกับ Thermage เครื่องมือช่วยยกกระชับสุดล้ำ ที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนภายใต้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการปล่อยคลื่นพลังงานที่ลงลึกไปตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ผิวหนังแท้ ไปจนถึงชั้นไขมัน ที่จะสลายไขมันส่วนเกิน ยกผิวให้กระชับ เต่งตึง ลดแก้ม ลดเหนียง ทำให้หน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย
10. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณชั้นผิว ทำให้โครงหน้ามีสัดส่วนมากขึ้น สามารถฉีดได้ตามจุดที่ต้องการเลย แต่ถ้าหากฉีดบริเวณแก้ม จะไม่ได้ช่วยลดแก้มขนาดนั้น เพราะคุณสมบัติหลักๆ คือช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ใบหน้าดูกระจ่างใส ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระชับ แลดูอ่อนเยาว์เท่านั้น แต่ถ้าใครมีร่องลึกบริเวณแก้ม การฉีดฟิลเลอร์จะมีส่วนช่วยเติมเต็มให้บริเวณนั้นมีความอิ่มฟู แลดูสุขภาพดีมากขึ้น
11. CoolSculpting
CoolSculpting คือการสลายไขมันด้วยความเย็น ทำให้ไขมันแตกตัว แล้วขับออกมาตามธรรมชาติ ส่งผลให้เซลล์ไขมันบริเวณแก้มลดลงได้ โดยตัวเครื่องจะมีหัวหลายขนาด ซึ่งเหมาะกับแต่ละจุดที่ต้องการลดไขมัน หากต้องการทำบริเวณแก้ม เพื่อลดแก้ม ลดเหนียง ก็สามารถทำได้ ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ ที่ทำให้ผิวบริเวณแก้มกระชับ และได้สัดส่วนมากขึ้น
ลดแก้มด้วย 4 วิธีทางธรรมชาติ ทำได้ด้วยตัวเอง
ต่อไปมาลดแก้มด้วย 4 วิธีทางธรรมชาติ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเจ็บตัว แต่อาจเห็นผลช้ากว่าวิธีทางการแพทย์ จะมีวิธีทำให้หน้าเรียวแบบไหนบ้าง ไปดูกัน!
1. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
เริ่มต้นกันด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพราะโดยส่วนใหญ่ ปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ มักเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น พฤติกรรมการกินอาหาร ที่กินอาหารจำพวกของหวาน ของมัน ของทอด ของเค็ม หรืออาหารพวกแป้ง ทำให้หน้าบวม มีไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ การนอนหลับไม่เพียงพอ เป็นต้น
เพราะฉะนั้น ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดไขมันไม่ดี เน้นกินอาหารที่มีไขมันดี นอนให้พอ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อการขับถ่ายที่ดี และไม่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เยอะ เป็นต้น
2. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน การวิ่ง หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น โดยการออกกำลังกายแบบนี้ มีส่วนช่วยลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ ซึ่งควรทำคาร์ดิโออาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 20-40 นาที เพื่อให้เผาผลาญไขมันได้อย่างเหมาะสม
3. ท่าบริหารลดแก้ม
สำหรับวิธีการทำท่าบริการลดแก้ม ลดเหนียง ทำได้ด้วยท่า Facial Exercises หรือท่าขยับใบหน้าไป-มา เพื่อทำให้ใบหน้ามีความแข็งแรงมากขึ้น ยิ่งถ้าหากทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเรื่องความกระชับของใบหน้า ทำให้หน้าเรียวสวยมากขึ้น ซึ่งจากผลวิจัยพบว่า การทำท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้า 2 ครั้งต่อวัน ต่อเนื่องจนถึง 8 สัปดาห์ จะช่วยให้กล้ามเนื้อหนาขึ้น และช่วยฟื้นฟูให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ลง โดยท่าที่แนะนำคือ ‘ท่าแก้มป่อง’ ที่มีวิธีทำดังนี้
- เป่าลมออกจากแก้มซ้ายไปแก้มขวา
- ย่นริมฝีปากไปด้านข้าง แล้วให้ยิ้มค้างไว้
- กัดฟันให้แน่นเป็นเวลา 5-10 วินาที
- จากนั้นให้ทำซ้ำอีกครั้ง
4. ใช้อุปกรณ์นวดหน้า
การใข้อุปกรณ์นวดหน้าเป็นวิธีลดแก้ม ลดเหนียง ที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลืองบริเวณใบหน้า ทำให้หน้าดูเรียวเล็กลงได้ โดยสามารถใช้อุปกรณ์อย่าง ลูกกลิ้งนวดหน้า หรือหินกัวซานวดหน้า ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเทคนิคการรักษาโรคของแพทย์แผนจีนโบราณ ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด น้ำเหลือง ทั้งยังช่วยดีท็อกซ์สารพิษ ส่งผลให้ใบหน้ากระชับ เต่งตึง ผิวแลดูกระจ่างใสมากขึ้น
ลดแก้มที่ HERS CLINIC ดีอย่างไร
- ผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดกระพุ้งแก้ม
- ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์กว่า 10,000 เคส
- คุณหมอมีความชำนาญสูง มือเบา ไม่รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์ไว และชัดเจน
- มีบริการลดแก้มได้ด้วยเครื่องยกกระชับคุณภาพ ที่ได้รับการรับรอง
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย มีอย.
- มีบริการให้คำปรึกษาตั้งแต่ก่อน-หลังทำศัลยกรรม และมีพนักงานดูแลเป็นอย่างดี
- คลินิกมีความสะอาด และมีความปลอดภัยตามมาตรฐานโรงพยาบาล
- มีเทคนิคเฉพาะ ช่วยลดอาการบวมหลังจากการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี
- คลินิกสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ติดกับสถานีรถไฟฟ้า
- มีรีวิวมากมาย เพื่อประกอบการตัดสินใจ
สรุป
ปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ เกิดได้จากพันธุกรรม ที่จะแก้ไขด้วยการลดน้ำหนักเท่าไร ก็ลดแก้มไม่ได้ หรือจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวัน ที่อาจส่งผลให้ไขมันเกิดการสะสม จนทำให้แก้มเยอะจนหน้าบาน นอกจากนี้ ยังเกิดได้จากอายุที่มากขึ้นด้วย เพราะผิวหนังเริ่มสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ผิวไม่เต่งตึง หย่อนคล้อยมากขึ้น
ทั้งนี้ เราสามารถลดแก้ม ลดเหนียงได้ด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การใช้เครื่องยกกระชับประเภท Hifu Ulthera, Thermage, RF และ CoolSculpting หรือจะเป็นวิธีการร้อยไหม ฉีดโบท็อกซ์ ดูดไขมัน ฉีดเมโสแฟต ฉีดฟิลเลอร์ และการผ่าตัด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวิธีทางธรรมชาติ เช่น การใช้อุปกรณืนวดหน้า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การทำท่าบริหารแก้ม หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในประจำวัน เป็นต้น
สำหรับใครสนใจอยากลดแก้มด้วยวิธีทางการแพทย์ ให้ HERS Clinic เป็นตัวเลือกในการเรียกความมั่นใจของคุณกลับมา เพราะที่นี่ มีบริการลดแก้มด้วยเครื่องยกกระชับ การร้อยไหม การฉีดโบท็อกซ์ การดูดไขมัน สำหรับใครที่ไม่อยากพักฟื้นนาน หรือจะเป็นการผ่าตัด เพื่อผลลัพธ์ในระยะยาว ไม่ให้แก้ม และเหนียงกลับมาอีก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีลดแก้ม (FAQs)
ต่อไปเป็นช่วงถาม-ตอบ เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับวิธีลดแก้ม เพื่อแก้ไขปัญหาแก้มเยอะ เหนียงเยอะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดแก้มด้วยวิธีไหนดีที่สุด?
วิธีการลดแก้มที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นเรื่องการลดไขมันบริเวณแก้ม เครื่องยกกระชับอย่าง ‘Ulthera’ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยสลายไขมันได้ลึกจนถึงชั้นผิวหนังชั้น SMAS เลย ประกอบกับคุณสมบัติในการยิงที่แม่นยำ แสดงระดับความลึกของจุดที่ยิงได้ คนไข้สามารถเห็นขั้นตอนการกระชับผิวได้แบบเรียลไทม์เลย
ลดแก้มแบบถาวร ทำได้ด้วยวิธีไหน?
วิธีการลดแก้ม ลดเหนียง อย่างการ ‘ผ่าตัด’ ถือว่ามีประสิทธิภาพในระยะยาว และเห็นผลลัพธ์ได้แบบถาวร ทำให้บริเวณกระพุ้งแก้มไม่กลับมาอีก หรือมีโอกาสกลับมาน้อยมาก แต่อาจต้องแลกมาด้วยการพักฟื้นที่นานกว่าวิธีลดแก้มรูปแบบอื่นๆ และต้องเจ็บกว่าด้วย
ลดแก้มแบบเร่งด่วนภายใน 1 สัปดาห์ได้ด้วยวิธีไหน?
เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีไปไกลมากกว่าที่คิดแล้ว ใครที่กำลังรีบๆ อยากลดแก้มภายใน 1 สัปดาห์ ทำได้ด้วยวิธีดังนี้
- Hifu ตัวช่วยยกกระชับ ลดไขมัน ให้หน้าไม่หย่อนคล้อย และช่วยเก็บโครงหน้าให้ชัดเจนขึ้น
- Thermage ตัวช่วยสลายไขมัน ลดแก้ม ลดเหนียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฉีดเมโสแฟต ตัวช่วยในการลดแก้ม ช่วยปรับใบหน้าให้เรียวสวย ไม่มีการสะสมของไขมัน
ทำไมการกินเค็มถึงทำให้หน้าบวม?
โดยปกติแล้ว โซเดียมมีหน้าที่ควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย แต่ถ้าได้รับโซเดียมมากเกินไป หรือกินเค็มมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำที่เก็บไว้ใต้ผิวหนังมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หน้าบวมน้ำได้ และถ้าหากกินเค็มเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เป็นโรคไต หรือโรคความดันในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน