• TH/EN
  • 099-1890189
  • MRT สุทธิสาร ทางออก 4
  • จันทร์-เสาร์: 10.00 - 20.00 น.
  • TH/EN
  • 099-1890189
  • MRT สุทธิสาร ทางออก 4
  • จันทร์-เสาร์: 10.00 - 20.00 น.
"ดูดไขมัน" นวัตกรรมปั้นหุ่นสวย กำจัดเซลลูไลท์ตรงจุด แผลเล็กฟื้นตัวไว

“ดูดไขมัน” นวัตกรรมปั้นหุ่นสวย กำจัดเซลลูไลท์ตรงจุด แผลเล็กฟื้นตัวไว

การดูดไขมัน เป็นนวัตกรรมปั้นหุ่นสวย กระชับสัดส่วน เหมาะสำหรับคนที่อยากมีหุ่นเป๊ะปังแบบเห็นผลไว เพราะช่วยกำจัดไขมันเฉพาะจุดรวมทั้งกำจัดเซลลูไลท์ได้อย่างรวดเร็ว แถมแผลยังเล็กและใช้เวลาฟื้นตัวไม่นานอีกด้วย ใครที่ต้องการให้หุ่นสวยกระชับไม่ควรพลาด มาทำความรู้จักกับการดูดไขมันให้มากขึ้น ว่าสามารถดูดส่วนไหนในร่างกายได้บ้าง ดูดไขมันเจ็บไหม ดูดไขมันข้อเสีย ข้อดีมีอะไรบ้าง และมีวิธีการอย่างไร

การดูดไขมัน คืออะไร

การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การดูดไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้อย่างเจาะจง โดยแพทย์จะทำการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะเป็นท่อยาวสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อนำเอาไขมันออกมา ซึ่งปากแผลสำหรับใส่เครื่องมือมีขนาดเล็กเพียง 0.5-1 เซนติเมตรเท่านั้น การดูดไขมันถือเป็นกระบวนการศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากให้เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว แผลเล็ก ฟื้นตัวไว กำจัดไขมันในบริเวณที่ไม่ต้องการได้อย่างตรงจุด แก้ปัญหาไขมันส่วนเกิน ช่วยกระชับผิว ให้สัดส่วนให้ดูดีมากขึ้น

การดูดไขมันเหมาะกับใครบ้าง

การดูดไขมันเหมาะกับใครบ้าง

ใครๆ ก็อยากมีหุ่นดี ไม่มีไขมันส่วนเกิน จึงทำให้หลายคนอยากใช้วิธีการดูดไขมันเพื่อลดส่วนเกิน ให้หุ่นดูสมส่วนมากขึ้น แต่การดูดไขมันอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน สำหรับผู้ที่เหมาะกับการดูดไขมัน ได้แก่

  • ผู้ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก
  • ผู้ที่ไม่ได้อ้วนทั้งตัว
  • ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะที่
  • ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมมาก
  • ผู้ที่ออกกำลังกายแล้ว แต่ไขมันหรือสัดส่วนไม่ลด
  • ผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วน
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ
  • ผู้ที่ผิวหนังยืดหยุ่นได้ดี หลังดูดไขมันผิวจะหย่อนน้อย
  • ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัว

การดูดไขมัน ต่างจากการลดความอ้วนหรือไม่

การดูดไขมันไม่เท่ากับการลดความอ้วน หากใครกำลังอยากลดน้ำหนักโดยการดูดไขมันต้องบอกเลยว่าทั้งสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน! เพราะการดูดไขมันจะทำให้น้ำหนักหลังทำลดไปได้ประมาณ 1-5 กิโลเท่านั้น เพราะไขมันนั้นเบามาก ไม่เหมือนกับกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็กกว่าไขมันในปริมาณน้ำหนักที่เท่ากัน เมื่อดูดไขมันแล้วจึงไม่ได้ส่งผลต่อน้ำหนักมากนัก เพียงแต่ช่วยลดสัดส่วน ทำให้รูปร่างดูดีขึ้นได้ ถ้าอยากเพิ่มความเป๊ะให้กับรูปร่างมากขึ้นแล้วล่ะก็ควรออกกำลังกาย เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือทำ IF ควบคู่กันไป เพื่อหุ่นดีที่ยั่งยืน จะได้ไม่มีไขมันกลับมาสะสมเพิ่มในอนาคต

ดูดไขมันบริเวณไหนได้บ้าง

ดูดไขมันบริเวณไหนได้บ้าง

ดูดไขมันสามารถทำได้หลายบริเวณในร่างกายทั่วทั้งตัว มีทั้งการดูดไขมันทั้งตัวหรือเฉพาะจุด ไม่ว่าจะเป็น การดูดไขมันหน้า ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นแขน  ดูดไขมันต้นขา หรือบริเวณอื่นๆ มาดูกันว่าการดูดไขมันแต่ละส่วนเป็นอย่างไร 

  • ดูดไขมันหน้า กรอบหน้า เหนียง เป็นการดูดไขมันเพื่อทำให้ใบหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น เห็นกรอบหน้าชัดเจน ลดคางสองชั้น ให้ใบหน้าดูสมส่วน และมีมิติมากยิ่งขึ้น
  • ดูดไขมันหน้าท้อง เป็นการดูดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง เมื่อดูดเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาผู้ที่มีพุงยื่น พุงย้อย หย่อนคล้อย ทำให้หน้าท้องดูกระชับ เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น 
  • ดูดไขมันต้นแขน การดูดไขมันต้นแขนจะช่วยให้ต้นแขนเล็กลง กระชับมากขึ้น แก้ปัญหาแขนย้อย ห้อยไม่กระชับ  
  • ดูดไขมันต้นขา เป็นการดูดไขมันที่อาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำหลังทำ จึงต้องใช้เวลาสักพักประมาณ 1-6 เดือนจึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นจะสังเกตุได้ว่าต้นขาเรียวเล็กลง ผิวกระชับมากขึ้น 

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน

การดูดไขมันแม้จะช่วยให้สัดส่วนเล็กลง หุ่นดีขึ้น แต่ก็อาจมีความเสี่ยงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งความเสี่ยงที่อาจพบก็อย่างเช่น เกิดผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน เกิดก้อนแข็งเป็นไตใต้ผิวหนัง ชาบริเวณแผลผ่าตัด เกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากการดูดไขมันออกมามากเกินไป การติดเชื้อ น้ำเหลืองคั่ง เลือดคั่ง เสียเลือด การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

การดูดไขมันมีกี่ประเภท

การดูดไขมันในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยี และเทคนิคใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากมาย ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ก่อนทำการดูดไขมันจึงควรทำความรู้จักกับประเภทการดูดไขมัน เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น

Body - Jet

Body – Jet เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำที่มีความอ่อนโยน นวัตกรรมจากเยอรมนี คุณสมบัติเด่นคือ ทำงานโดยการใช้พลังน้ำเพื่อสลายไขมันส่วนเกิน แยกชั้นไขมันโดยไม่ทำลายเซลล์ไขมัน ไม่ใช้ความร้อน จึงไม่ก่อให้เกิดความร้อนใต้ผิวหนัง

ข้อดี

  • อ่อนโยน
  • บวมช้ำน้อย 
  • ผิวไม่ไหม้ เซลล์ไม่ตาย
  • สามารถนำไขมันไปเติมได้
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ
  • ปลอดภัย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน

ข้อเสีย

  • ใช้เวลานานกว่าการดูดไขมันแบบอื่นๆ
  • เห็นผลที่ชัดเจนช้ากว่า

Bodytite Pro

Bodytite Pro เป็นนวัตกรรมจากสหรัฐอเมริกา ดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี Radio-Frequency Assisted Liposuction (RFAL) หรือคลื่นความถี่วิทยุ มีความโดดเด่นในเรื่องการยกกระชับผิว สัดส่วน พร้อมสลายไขมันในเวลาเดียวกัน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องผิวหย่อน ผิวย้วย ได้อย่างดี รวมไปถึงตำแหน่งที่ยากต่อการสลายไขมัน เช่น นมน้อย ปีกหลัง ต้นขาด้านใน ก้น หัวเข่า 

ข้อดี

  • เหมาะกับคนที่ต้องสลายไขมัน และยกกระชับผิว สัดส่วน ให้ผิวไม่ห้อยย้อย
  • ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • เข้าถึงตำแหน่งที่ยากต่อการรักษาได้ดี 
  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  • ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน 

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะกับคนที่มีน้ำหนัก หรือไขมันสะสมเยอะมาก หรือผิวย้วยหนัก 
  • ใช้พลังงานความร้อน จึงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์

Ultra Z

Ultra Z เป็นเครื่องดูดไขมันจากเกาหลี ที่ใช้นวัตกรรมคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ มีค่าพลังงานที่ต่ำ เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมไม่เยอะ ชั้นไขมันไม่หนา 

ข้อดี

  • สามารถดูดไขมันได้ทุกบริเวณ
  • ใช้เวลาดูดไขมันไม่นาน
  • ดูดไขมันได้เยอะ และใช้เวลาไม่นาน
  • ไม่ทำลายคอลลาเจนในผิว
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

ข้อเสีย

  • ไขมันที่ดูดออกต้องทิ้งอย่างเดียว ไม่สามารถนำไปเติมได้
  • อาจเกิดอาการเจ็บช้ำหลังดูดไขมัน
  • ใช้เวลาพักฟื้นหลายวัน

Vaser Smooth

Vaser Smooth เครื่องดูดไขมัน คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound Assisted Liposuction : UAL) นวัตกรรมจากอเมริกา มีความสามารถในการสลายไขมันได้สูง ซึ่งคลื่นอัลตร้าซาวด์จะทำให้ท่อดูดไขมันจะเกิดการสั่น ท่อไขมันและเซลล์ไขมันจึงเสียดสีกัน จนเกิดเป็นพลังงานความร้อน ไขมันแตกตัวเป็นน้ำมัน และถูกดูดออกมา เหมาะมากกับคนที่มีไขมันเยอะ หรือมีชั้นไขมันหนา สามารถดูดไขมันได้ทุกตำแหน่งบนร่างกาย 

ข้อดี

  • ดูดไขมันได้จำนวนมากและเร็ว
  • เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมหนา
  • ใช้เวลาการดูดไขมันน้อย
  • ช่วยกำจัดเซลลูไลท์
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะกับคนที่มีชั้นไขมันบาง 
  • ไม่เหมาะกับการดูดไขมันตำแหน่งเล็กๆ 
  • มีความร้อนสูง อาจทำให้ผิวบาง ในเคสที่มีชั้นไขมันบาง 
  • มีการบาดเจ็บและบวมช้ำหลังทำ

J - Plasma

J – Plasma นวัตกรรมใหม่จาก USA ช่วยยกกระชับผิวให้เรียบตึง ลดสัดส่วนแต่ไม่ได้สลายไขมันโดยตรง ช่วยกู้ผิวให้กลับมาเต่งตึง ทำงานโดยการนำพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency : RF) ผสานกับพลังงานก๊าซเฉื่อยที่มีความเย็น (Helium Plasma) เพื่อสร้างความร้อน เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวเฟิร์ม ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลาง 

ข้อดี

  • ความร้อนเสถียร ผิวไม่ไหม้
  • กระชับผิวได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย 
  • เห็นผลทันที และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่อผ่านไป 3-6 เดือน
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • ลดอาการข้างเคียงจากการดูดไขมัน ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว
  • แม่นยำสูง เนื้อเยื่อรอบข้างไม่เกิดความเสียหาย 

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวในระดับรุนแรง เช่น หัวใจ เบาหวาน โรคเกี่ยวกับสมอง ไทรอยด์
  • ต้องใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายสูง

Microaire Pal

Microaire Pal เป็นเทคโนโลยีการดูดไขมันระบบสั่น ใช้พลังงานการสั่นของเข็ม 4,000 รอบ ต่อนาที พร้อมกับการใช้ท่อแรงดูดสูญญากาศ เคลื่อนที่แบบลูกสูบอย่างรวดเร็ว ทำให้ไขมันแตกตัวและถูกดูดออกมาได้ง่าย แม้ในตำแหน่งที่ดูดยาก และไม่จำเป็นต้องใช้แรงเยอะ 

ข้อดี

  • ดูดไขมันได้เยอะและง่าย
  • ใช้เวลาไม่นาน
  • เซลล์ไขมันไม่ตาย
  • ผิวไม่ไหม้ เพราะไม่เกิดความร้อนสะสม
  • เก็บไขมันได้อย่างละเอียด แม้ตำแหน่งที่ดูดยาก
  • ใช้ร่วมกับเครื่องดูดไขมันประเภทอื่นๆ ได้

ข้อเสีย

  • เครื่องมีเสียงดัง
  • ราคาสูง
  • เกิดอาการบวมช้ำมาก ใช้เวลาพักฟื้นนาน 
  • ไม่นิยมใช้เดี่ยวๆ มักใช้ร่วมกับเครื่องดูดไขมันชนิดอื่นๆ 
  • หากดูดไขมันกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจเกิดปัญหาผิวเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบ หรือเสียเลือดมาก

การเตรียมตัวก่อนการดูดไขมัน

การเตรียมตัวที่ดีก่อนการดูดไขมันเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เนื่องจากการดูดไขมันอาจเกิดความเสี่ยงตามมาได้ การเตรียมพร้อมที่ดีก็จะช่วยให้การดูดไขมันเป็นไปได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันสามารถทำได้ ดังนี้ 

  • แจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด เช่น โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ปัญหาสุขภาพฟัน ประวัติผ่าตัด
  • แจ้งแพทย์ถึงยาที่รับประทานประจำ
  • ปรึกษา พูดคุยถึงเป้าหมาย และผลลัพธ์ที่ต้องการกับแพทย์
  • หากมีภาวะเสี่ยงและโรคประจำตัว จะต้องทำการ
    • ตรวจเลือด
    • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
    • เอกซเรย์
    • ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
  • งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 6 สัปดาห์ 
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • งดยาสมุนไพร อาหารเสริม
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือยาลดการอักเสบ (NSAIDs) อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ไม่ควรทาเล็บ
  • งดน้ำ งดอาหาร กรณีที่ต้องดมยาสลบ
  • หลีกเลี่ยงการดูดไขมันในช่วงที่มีประจำเดือน 
  • สวมเสื้อผ้าที่หลวม ไม่รัดแน่น
  • อาบน้ำ สระผมให้สะอาด 

ขั้นตอนการดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นการศัลกรรมผ่าตัดเพื่อความงาม ซึ่งอาจทำให้ผู้รับบริการเกิดความเจ็บขณะทำ จึงมีการใช้ยายาหรือยาสลบเพื่อช่วยลดความเจ็บปวด โดยขั้นตอนการดูดไขมัน มีดังนี้

  • งดน้ำ งดอาหาร อย่างน้อย  6-8 ชั่วโมง 
  • แพทย์ทำการประเมินและวางแผนบริเวณที่ทำการผ่าตัดดูดไขมัน 
  • ใช้ยาชาเฉพาะที่หรือวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • แพทย์ทำการเปิดช่องผิวหนังขนาดเล็กประมาณ 0.5 เซนติเมตร
  • ฉีดยาเพื่อทำให้ไขมันอ่อนตัวลง
  • ผสมยาห้ามเลือดลงในตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมัน 
  • สอดท่อขนาดเล็กเข้าไปในบริเวณที่ทำการเปิดผิวหนัง จากนั้นดูดไขมันส่วนเกินออก
  • เย็บแผลเพื่อปิดปากแผล
  • แพทย์นำผ้าพันแผลพันบริเวณที่ดูดไขมันเพื่อกระชับผิว ลดอาการบวม และช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น 
  • ใช้เวลาต่ำสุดประมาณ 30 นาที จนถึง 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน

การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมัน

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันก็สำคัญไม่แพ้กับการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังการดูดไขมัน การดูแลตนเองสามารถทำได้ ดังนี้

  • หลังผ่าตัดในช่วง 1-2 วันแรก จะมีอาการบวม มีรอยช้ำ และอาจรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่ง ประคบเย็น และใส่ชุดรัดรูปเพื่อกระชับผิว
  • หลังทำประมาณ 1 เดือน ควรใช้ผ้ายืดพันรัดเพื่อกระชับผิวหนัง
  • 3 วันหลังผ่าตัด สามารถเริ่มอาบน้ำได้หากแผลแห้ง และไม่มีอาการปวดบวม
  • 1 สัปดาห์หลังดูดไขมัน แพทย์จะทำการนัดตัดไหม ไม่ควรทายาป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนเด็ดขาด 
  • ควรงดออกกำลังกาย 1 เดือน
  • ควรควบคุมอาหาร เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายกลับไปสะสมไขมันส่วนเกินได้อีก

ดูดไขมันที่ไหนดี? ดูดไขมันที่ Hers Clinic ดีกว่าอย่างไร

  • Hers Clinic เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานโรงพยาบาล
  • ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางประสบการณ์สูง
  • บริการระดับโรงแรม
  • สถานที่สะอาด ปลอดภัยตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
  • ให้ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุป

การดูดไขมันคือ การดูดเอาส่วนไขมันส่วนเกินที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ส่งผลต่อรูปร่างและความมั่นใจ โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ตามความเหมาะสมและปัญหาไขมันแต่ละจุดเข้าไปดูดไขมันใต้ผิว ช่วยให้หุ่นกระชับ สัดส่วนเป๊ะในเวลาอันรวดเร็ว เหมาะกับคนที่มีปัญหาไขมันสะสม ผิวย้อย ขาดความกระชับ หรือคนที่ออกกำลังกายแล้วไขมันบางจุดไม่สามารถกำจัดออกไปได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมัน (FAQ)

ปัจจุบันหลายคนให้ความสนใจกับการดูดไขมันเป็นอย่างมาก เราจึงได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูดไขมันมาตอบไว้ที่นี่

การดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดความอ้วน แต่เป็นการลดสัดส่วน การสะสมไขมันในร่างกายขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต หากดูดไขมันแล้วไม่ออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร ก็สามารถกลับมาอ้วนได้

ดูดไขมันมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการดูดไขมัน โปรโมชันขณะนั้น การประเมินของแพทย์ และสถานพยาบาลที่เข้ารับบริการ สำหรับการดูดไขมันเฉพาะจุด อย่างการดูดไขมันต้นแขน ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นขา ราคาจะเริ่มอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาทขึ้นไป การดูดไขมันหน้า เหนียง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 19,900 บาทขึ้นไป ดูดไขมันทั้งตัว เริ่มต้นที่ 25,000 บาทขึ้นไป

การดูดไขมันไม่อันตรายหากทำการผ่าตัดกับแพทย์ที่มีความชำนาญการและมีประสบการณ์ รวมทั้งรับบริการในสถานพยาบาลที่มีความสะอาด ได้รับมาตรฐานรับรองความปลอดภัยอย่างถูกต้อง

การดูดไขมันเจ็บแต่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ระหว่างการทำจะมีการใช้ยาชาเฉพาะจุด หรืออาจมีการวางยาสลบ ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดในขณะทำ และหลังทำเสร็จสามารถกลับบ้าน ใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เลย 

Post a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *