ปัญหาผิวที่สามารถพบได้บ่อยเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น คือปัญหาร่องแก้มที่สามารถส่งผลให้ภาพลักษณ์ของใบหน้านั้นดูหย่อนคล้อยหรือดูแก่กว่าวัยได้ แต่ว่าในปัจจุบันนั้นก็มีหลากหลายวิธีเสริมร่องแก้มที่สามารถช่วยเติมเต็มให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นได้ เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าวัย เช่น การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดไขมัน การร้อยไหม หรือการผ่าตัดเสริมซิลิโคนร่องแก้ม เป็นต้น โดยในบทความนี้ก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าการเสริมร่องแก้มให้ดูหน้าเต็มขึ้นนั้นสามารถทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง เพื่อให้ทุกคนได้เลือกวิธีเสริมร่องแก้มที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
ร่องแก้ม คืออะไร
ร่องแก้ม คือ เส้นแนวเฉียงที่เกิดขึ้นบริเวณข้างแก้ม ตั้งแต่ช่วงข้างปีกจมูกยาวลงมามาจนถึงบริเวณมุมปาก โดยส่วนใหญ่มักจะเห็นได้ชัดในช่วงที่กำลังแสดงสีหน้า เพราะมีการยกมุมปาก และช่วงโกหนกแก้ม ที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณกลางใบหน้ามีการหดเกร็งร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้นก็จะเห็นร่องแก้มได้ชัดเจน เพราะผิวมีความหย่อนคล้อยกว่าปกติ
สาเหตุของปัญหาร่องแก้มลึก
โดยส่วนใหญ่ปัญหาร่องแก้มนั้นมักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุเยอะ แต่ว่าปัญหาดังกล่าวนั้นก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุน้อยได้เช่นกัน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาร่องแก้มได้ในทุกช่วงวัย มีดังนี้
- กระดูกช่วงกลางใบหน้ายุบ เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่กระดูกช่วงกลางใบหน้ายุบ ทำให้ไขมัน และกล้ามเนื้อยุบตัวลงตามไปด้วย ส่งผลให้ใบหน้าเกิดการเสียสมมาตร และเกิดร่องแก้มลึกที่เห็นได้อย่างชัดเจน
- เนื้อบริเวณโหนกแก้มหนา เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่เนื้อบริเวณโหนกแก้มหนากว่าปกติ ส่งผลให้เกิดความแตกต่างของระดับผิวช่วงโหนกแก้มและบริเวณร่องแก้ม เมื่อมีอายุมากขึ้น มีการแสดงสีหน้าบ่อยๆ หรือมีปัจจัยอื่นๆ มากระตุ้นก็จะทำให้เกิดร่องแก้มได้ง่าย
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่ผิวมีปริมาณคอลลาเจนลดลง ส่งผลให้ผิวมีความหย่อนคล้อยได้ง่าย และกลายเป็นปัญหาร่องแก้มตามมา
- การสัมผัสแสงแดด เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่ผิวถูกทำลายจากแสงแดด อาจทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้เวลาแสดงสีหน้า หรือได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยอื่นๆ นั้นเกิดปัญหาร่องแก้มตามมาได้ง่าย
- การดูแลรักษาผิวหน้า เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าไม่เพียงพอ หรือเลือกใช้สกินแคร์ไม่เหมาะสมกับผิว ส่งผลให้ผิวอ่อนแอหรือแห้งง่าย จนเกิดความไม่ยืดหยุ่น จึงทำให้ผิวเกิดริ้วรอยร่องลึกตามมา
- การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่สารต่างๆ ที่อยู่ภายในบุหรี่นั้นทำให้ผิวหนังถูกจำกัดการไหลเวียนของเลือก ส่งผลให้สภาพผิวมีแห้ง หรือหยาบกร้าน ที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย หรือร่องแก้มได้ง่ายกว่าปกติ
กรรมพันธุ์ เป็นสาเหตุที่เกิดจากการที่สมาชิกภายในครอบครัวมีสภาพผิวแห้ง และส่งต่อผ่านทางพันธุกรรม เมื่อมีสภาพผิวแห้งก็จะทำให้เกิดริ้วรอยหรือร่องลึกได้ง่าย รวมถึงปัญหาร่องแก้มด้วย
การเสริมร่องแก้ม คืออะไร
การเสริมร่องแก้ม คือ วิธีที่จะช่วยเสริมให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น โดยในปัจจุบันนั้นก็มีวิธีการเสริมร่องแก้มหลากหลายวิธี เช่น การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดไขมัน การร้อยไหม หรือการเสริมซิลิโคนร่องแก้ม ที่จะช่วยลดริ้วรอย หรือร่องลึกบริเวณแก้มให้ดูตื้นขึ้น และเต็มมากขึ้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูกระชับ และดูอิ่มฟูขึ้นด้วย
วิธีการเสริมร่องแก้ม
วิธีการเสริมร่องแก้มนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยแต่ละวิธีนั้นก็จะมีขั้นตอนและความเหมาะสมกับความลึกของร่องแก้มที่แตกต่างกัน เพราะว่ารูปหน้าและโครงหน้าของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งวิธีการเสริมร่องแก้มที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 วิธี ดังนี้
1. การฉีดฟิลเลอร์เสริมร่องแก้ม
การเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นวิธีที่คุณหมอจะทำการฉีดสาร Hyalurinoc Acid ที่เป็นสารเติมเต็มเข้าไปในผิวหนังบริเวณร่องแก้ม เพื่อทดแทนคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวที่สูญเสียไป ทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น มีความอิ่มน้ำ ผิวมีความยืดหยุ่น และดูกระชับมากขึ้น ซึ่งส่วoใหญ่จะฟิลเลอร์ประมาณ 1-4 ซีซี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและดุลยพินิจของคุณหมอด้วย
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์เสริมร่องแก้ม
สำหรับขั้นตอนในการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
- เข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอถึงวิธีการแก้ไข และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์
- แปะยาชา หรือทำการประคบเย็นบริเวณผิวที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์
- คุณหมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้คนไข้ได้ตรวจสอบว่าเป็นของแท้
- คุณหมอทำการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่กำหนดไว้
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
- คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้ดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
การฉีดฟิลเลอร์เสริมร่องแก้มเหมาะกับใคร
สำหรับการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดฟิลเลอร์นั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกระดับน้อย-ปานกลาง
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก แต่ไม่อยากเข้ารับการผ่าตัดแก้ไข
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม แต่มีเวลาพักฟื้นน้อย หรือต้องการเห็นผลเร็ว
ข้อดี
สำหรับข้อดีของการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
- เห็นผลลัพธ์หลังจากทำทันที
- ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด
- ไม่มีรอยแผลหลังทำ
- ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย
- หากไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถฉีดเพิ่มหรือแก้ไขได้
ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
- คอยฉีดเติมฟิลเลอร์เป็นประจำ
2. การฉีดไขมันเสริมร่องแก้ม
ขั้นตอนการฉีดไขมันเสริมร่องแก้ม
สำหรับขั้นตอนในการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดไขมัน มีดังนี้
- เข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอถึงวิธีการแก้ไขและบริเวณที่จะทำการดูดไขมันส่วนเกินมาใช้
- คุณหมอทำการดูดไไขมันส่วนเกินตามที่วางแผนไว้
- คุณหมอนำไขมันส่วนเกินที่ดูดออกมาไปปั่นแยกให้ได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ
- ทำความสะอาดผิวหน้า พร้อมกับทำการฆ่าเชื้อ และฉีดยาชา
- คุณหมอนำไขมันที่ปั่นแยกแล้ว มาฉีดเข้าไปในบริเวณร่องแก้ม
- คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดไขมัน เพื่อให้คนไข้ดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
การฉีดไขมันเสริมร่องแก้มเหมาะกับใคร
สำหรับการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดไขมันนั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม แต่แพ้ฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม แต่อยากใช้ส่วนประกอบของร่างกายตัวเอง
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม และอยากลดไขมันส่วนเกินในเวลาเดียวกัน
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก และมีปัญหาหน้าตอบร่วมด้วย
ข้อดี
สำหรับข้อดีของการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดไขมัน มีดังนี้
- เห็นผลหลังทำการฉีดทันที
- ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
- ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด และไม่มีแผล
- ลดไขมันส่วนเกินของร่างกาย
- มีความเป็นธรรมชาติ
- ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
- มีโอกาสที่จะแพ้น้อย เพราะเป็นส่วนประกอบของร่างกายตัวเอง
- ช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้นคอลลาเจน และซ่อมแซมผิว
- ช่วยเสริมสร้างให้ผิวมีสุขภาพดี และมีความแข็งแรงมากขึ้น
ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของการเสริมร่องแก้มด้วยการฉีดไขมัน มีดังนี้
- มีโอกาสที่ไขมันจะไม่คงอยู่บริเวณที่ฉีดแบบ 100%
- มีโอกาสที่จะมีอาการปวด บม หรือช้ำในบริเวณที่นำไขมันออกมา
- กลับมาฉีดซ้ำบ่อยครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากขึ้
3. การร้อยไหมเสริมร่องแก้ม
การเสริมร่องแก้มด้วยการร้อยไหมนั้นเป็นวิธีที่คุณหมอจะใช้ไหมประเภทยกกระชับในการสอดลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อให้เงี่ยงของไหมเกี่ยวและยึดใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อทำการยกเส้นไหมขึ้นมาก็จะทำให้ผิวถูกยกกระชับขึ้นตามแนวไหม ส่งผลให้ผิวบริเวณร่องแก้มนั้นดูตื้นขึ้น ผิวมีความกระชับมากขึ้น ยังช่วยกระตุ้นในการสร้างคอลลาเจนในผิวอีกด้วย
ขั้นตอนการร้อยไหมเสริมร่องแก้ม
สำหรับขั้นตอนในการเสริมร่องแก้มด้วยการร้อยไหม มีดังนี้
- เข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอถึงวิธีการแก้ไข และจำนวนไหมที่จะต้องใช้
- ทำความสะอาดผิวหน้าในบริเวณที่จะทำการร้อยไหมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
- หลังจากเตรียมผิวแล้ว คุณหมอจะทำการฉีดยาชาในตามแนวไหมที่วางแผนไว้
- คุณหมอเริ่มทำการร้อยไหมในบริเวณที่วางแผนไว้
- หลังจากร้อยไหมครบทุกจุดแล้ว คุณหมอจะทำการตัดไหม หรือผูกปมไหม
- คุณหมอทำความสะอาดแผลและปิดรูที่ร้อยไหม เพื่อลดโอกาสที่จะอักเสบหรือติดเชื้อ
- คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังการร้อยไหม เพื่อให้คนไข้ดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
การร้อยไหมเสริมร่องแก้มเหมาะกับใคร
สำหรับการเสริมร่องแก้มด้วยการร้อยไหมนั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกในระดับปานกลาง
- ผู้ที่มีปีญหาร่องแก้มลึก และมีปัญหาแก้มห้อยร่วมด้วย
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก และมีรอยพับหน้าแก้มร่วมด้วย
ข้อดี
สำหรับข้อดีของการเสริมร่องแก้มด้วยการร้อยไหม มีดังนี้
- เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที
- ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
- ไม่ทิ้งรอยแผล
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
- ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย
ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของการเสริมร่องแก้มด้วยการร้อยไหม มีดังนี้
- มีอาการบวม หรือฟกช้ำประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังทำ
- มีโอกาสที่จะเกิดคลื่นไหม หรือริ้วไหม
- มีโอกาสที่จะเกิดพังผืดได้ ในกรณีที่ร้อยไหมถี่เกินไป
- ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร
4. การเสริมซิลิโคนร่องแก้ม
การเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคนนั้นเป็นวิธีที่คุณหมอจะทำการผ่าตัดภายในช่องปาก บริเวณใกล้เหงือกด้านบน เพื่อนำซิลิโคนเสริมร่องแก้มที่มีการออกแบบมาเฉพาะใช้สำหรับร่องแก้มเติมเข้าไปในบริเวณใต้ร่องแก้ม ที่สามารถช่วยดันผิวที่เป็นร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ผลลัพธ์ในการแก้ไขสามารถอยู่ได้อย่างถาวร แผลผ่าตัดเล็ก หายไว และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน
ขั้นตอนการเสริมซิลิโคนร่องแก้ม
สำหรับขั้นตอนในการเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคน มีดังนี้
- เข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอถึงวิธีการแก้ไข
- ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร และออกซิเจนในเลือดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ทำความสะอาดช่องปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก
- พ่นยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัดก่อนทำการฉีดยาชา
- ฉีดยาชาบริเวณเหงือกด้านบนทั้ง 2 ข้าง
- คุณหมอทำการผ่าตัดเสริมซิลิโคนร่องแก้ม
- คุณหมอทำการเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ประคบเย็นบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง
- สังเกตอาการหลังผ่าตัดประมาณ 30 นาที
- คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมร่องแก้ม เพื่อให้คนไข้ดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง
การเสริมซิลิโคนร่องแก้มเหมาะกับใคร
สำหรับการเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคนนั้นเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก และต้องการแก้ไขแบบถาวร
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกที่เกิดจากสาเหตุโหนกแก้มสูง
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก และมีปัญหาปากบนยื่นร่วมด้วย
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก แต่ไม่อยากฉีดสารอื่นๆ เข้าภายในร่างกาย
ข้อดี
สำหรับข้อดีของการเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคน มีดังนี้
- ผลลัพธ์อยู่ถาวร
- แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก
- ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย เจ็บน้อย และหายเร็ว
- ไม่มีแผลภายนอก
- ไม่มีรอยแผลเป็น
- แก้ไขปัญหาปากบนยื่นได้
ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของการเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคน มีดังนี้
- มีอาการบวม หรือตึงบริเวณแผลประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- มีโอกาสที่จะเกิดอาการชาบริเวณปาก
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ใครไม่เหมาะกับการเสริมร่องแก้ม
ถึงแม้ว่าการเสริมร่องแก้มด้วยวิธีต่างๆ นั้นจะช่วยให้ผู้ที่ปัญหาร่องแก้มนั้นดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แต่ว่าก็ยังมีผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการเสริมร่องแก้ม ดังนี้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคลมชัก โรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือเป็นโรคเลือด
- ผู้ที่กำลังให้นมบุตร หรือกำลังตั้งครรภ์
- ผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาชา หรือแพ้สารต่างๆ ที่ใช้ในการเสริมร่องแก้ม
- ผู้ที่มีภาวะอักเสบ หรือติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่จะทำการเสริมร่องแก้ม
ผลข้างเคียงหลังเสริมร่องแก้ม
หลังจากทำการเสริมร่องแก้มนั้นสามารถเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ตามมาได้ อย่างเช่นในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน หรือร้อยไหม อาจเกิดอาการบวม ตึง มีรอยช้ำ หรือขยับปากลำบาก ในส่วนของการผ่าตัดเสริมซิลิโคนร่องแก้มนั้นก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรงและสามารถค่อยๆ หายไปได้เอง โดยผลข้างเคียงหลังจากเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคนที่สามารถพบได้ มีดังนี้
- เกิดอาการปวด บวมช้ำ หรือเลือดออกหลังผ่าตัด
- เกิดอาการตึงบริเวณแผลผ่าตัด
- เกิดอาการชาที่บริเวณริมฝีปาก
- เกิดอาการซิลิโคนเลื่อน ในกรณีที่ใบหน้าถูกกระทบกระเทือน และควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที
- เกิดอาการติดเชื้อที่แผลหลังเข้ารับการผ่าตัด ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที
การเตรียมตัวก่อนเสริมร่องแก้ม
สำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมร่องแก้มของแต่ละวิธีนั้นก็จะมีบางขั้นตอนที่แตกต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วการเตรียมตัวก่อนเสริมร่องแก้มเบื้องต้น มีดังนี้
- งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดยากลุ่มแอสไพริน หรือยาแก้ปวดไอบูโพรเฟนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดวิตามิน และอาหารเสริมทุกชนิดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดการแต่งหน้า ใส่คอนแทคเลนส์ และเครื่องประดับทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือประวัติยาที่ใช้เป็นประจำ
- แจ้งประวัติการฉีด การผ่าตัด หรือการทำหัตถการต่างๆ บริเวณใบหน้า
- ทำความสะอาดร่างกายให้เรียบก่อนเข้ารับการผ่าตัด เช่น สระผม แปรงฟัน หรือตัดเล็บ เป็นต้น
- งดรับประทานอาหาร และน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย และหลวม เช่น เสื้อที่มีกระดุมหน้า เพื่อให้ถอด-ใส่ได้ง่าย
การดูแลตัวเองหลังเสริมร่องแก้ม
หลังจากเข้ารับการเสริมร่องแก้มแล้ว เพื่อให้ร่องแก้มสามารถเข้าที่ได้อย่างรวดเร็ว และแผลเสริมร่องแก้มสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ควรปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังเสริมร่องแก้ม ดังนี้
- ประคบเย็นบริเวณข้างแก้มเหนือริมฝีปากบนประมาณ 3 วันหลังเข้ารับการผ่าตัด
- ประคบอุ่นบริเวณข้างแก้มเหนือริมฝีปากบนหลังเข้ารับการผ่าตัดวันที่ 4 จนถึง 1 สัปดาห์
- รับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
- นอนยกศีรษะสูงกว่าร่างกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังเข้ารับการผ่าตัด
- ทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันแผลอักเสบ
- งดการรับประทานอาหารรสจัด อาหารแสลง หรืออาหารหมักดอง
- งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 สัปดหา์หลังเข้ารับการผ่าตัด
- งดการออกกำลังกาย 1 สัปดาห์หลังจากเข้ารับการผ่าตัด
- งดยา วิตามิน หรืออาหารเสริมต่างๆ ที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดประมาณ 3 เดือนหลังเข้ารับการผ่าตัด
- เข้าพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามอาการ และถ้าหากมีอาการผิดปกติ ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที
เทคนิคเฉพาะของการผ่าตัดเสริมร่องแก้มที่ HERS CLINIC
สำหรับการเสริมร่องแก้มที่ HERS CLINIC นั้นจะมีเทคนิคในการเสริมร่องแก้มที่ไม่เหมือนกับที่อื่นๆ และเป็นเทคนิคเฉพาะของคุณหมอโจ้ (นพ.นฤชิต เลาหไทยมงคล) ดังนี้
- เทคนิคเสริมร่องแก้มแบบ Triple Lock
Lock ชั้นที่ 1: เทคนิคการวางซิลิโคนไว้ระหว่างสันกระดูกบนใบหน้า เพื่อป้องกันการเคลื่อนของซิลิโคน
Lock ชั้นที่ 2: เป็นเทคนิคการวางซิลิโคนไว้ใต้เยื่อหุ้มกระดูก ทำให้คลำไม่เจอขอบ
Lock ชั้นที่ 3: เป็นเทคนิคการเย็บฟิกซ์ซิลิโคนกับเนื้อเยื่อรอบข้าง เพื่อให้ติดแน่น ป้องกันการเลื่อน
- เทคนิคซ่อนขอบ เป็นเทคนิคที่คุณหมอโจ้จะทำการวางซิลิโคนร่องแก้มบนชั้นกระดูก ทำให้เวลาที่แผลผ่าตัดเสริมร่องแก้มด้วยซิลิโคนหายนั้นก็จะช่วยให้ซิลิโคนผสานเป็นเนื้อดียวกับกระดูก และทำให้ไม่เห็นขอบซิลิโคน
- เทคนิคป้องกันซิลิโคนเลื่อน เป็นเทคนิคที่คุณหมอโจ้จะทำการคงตำแหน่งของซิลิโคนให้อยู่กับที่ ด้วยการเย็บกับเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้โอกาสที่การเสริมซิลิโคนร่องแก้มจะเคลื่อนที่มีน้อยมาก หรือไม่มีเลย
สรุป
ปัญหาร่องแก้ม เป็นปัญหาที่มีลักษณะของผิวบริเวณร่องแก้มในช่วงปีกจมูกจนถึงมุมปากเป็นเส้นลึก หรือริ้วรอยร่องลึก ที่ส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้านั้นดูแก่กว่าวัย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น กระดูกช่วงกลางใบหน้ายุบ การดูแลผิวผิดวิธี หรือการกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยร่องลึกได้ง่าย แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการเสริมร่องแก้มที่มีให้เลือกหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ การฉีดไขมัน การร้อยไหม หรือการผ่าตัดเสริมซิลิโคนร่องแก้ม ที่สามารถช่วยให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นได้ แต่ในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกเสริมร่องแก้มด้วยวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาร่องแก้มและตัวเองมากที่สุด ที่สำคัญคือควรดูรีวิวเสริมร่องแก้มที่สามารถเชื่อถือได้ พร้อมกับทำการปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์ก่อนทุกครั้ง เพื่อที่จะดูแลตัวเองก่อนและหลังเสริมได้อย่างเหมาะสม รวมถึงให้ได้ผลลัพธ์ในการเสริมร่องแก้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด